รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันองค์การอนามัยยังถือกัญชาเป็นยาเสพติด เปิดให้ใช้ประโยชน์ได้ภายใต้การควบคุม ซึ่งไทยปฏิบัติตามกรอบดังกล่าวเปิดให้ใช้กัญชาเฉพาะประโยชน์ทางการแพทย์ ไม่เสรีกัญชา เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวยืนยันว่า การเดินหน้าใช้ประโยชน์กัญชาในประเทศไทย ขณะนี้เป็นไปตามกรอบที่ทั่วโลกดำเนินการ และถือว่าก้าวหน้ากว่าที่ใดในเรื่องของการเปิดให้ใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์

ซึ่งจากการเดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่อนามัยโลก ที่ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีโอกาสได้พูดคุยกับรองผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกที่ดูแลเกี่ยวกับสารเสพติด รวมถึงผู้แทนประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเนเธอร์แลนด์ ที่เปิดให้นำกัญชาเป็นส่วนผสมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้นั้น ล้วนทำภายใต้เงื่อนไขข้อกำหนดที่รัดกุม เพราะชัดเจนว่าองค์การอนามัยโลกยังคงให้กัญชาเป็นสารเสพติด
การจะใช้สารสกัดจากกัญชา ซึ่งมีสาระสำคัญ 2 อย่าง คือ CBD ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์ กับสาร THC ที่ทำให้เกิดการเสพติด ประกาศว่าถ้าจะนำกัญชาไปผสมผลิตภัณฑ์ใดก็ตามต้องมีปริมาณ THC ไม่เกิน 0.2% ซึ่งสวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่มีผลิตภัณฑ์ผสมกัญชาวางขายตามท้องตลาดก็เข้มงวดเรื่องปริมาณส่วนผสมนี้เช่นกัน ถ้าผลิตภัณฑ์ใดมีสาร THC เกิน 1% ถือเป็นยาที่ต้องสั่งจากโดยแพทย์ที่มีใบรับรองให้สั่งจ่ายกัญชาได้
ซึ่งถือเป็นแนวทางเดียวกับที่ประเทศไทยดำเนินการ และไทยจำเป็นต้องเข้มงวดเรื่องการใช้ประโยชน์กัญชามากเพราะกัญชาสายพันธุ์ไทยเป็นสายพันธุ์ที่มีสาร THC สูงถึง 10% เกินกว่าระดับที่องค์การอนามัยโลกยอมรับได้มาก

ดังนั้น การที่รัฐบาลเปิดให้ใช้กัญชาเป็นยา ก็ต้องใช้อย่างระมัดระวัง เพราะยามีทั้งคุณและโทษ หากใช้โดยไม่คำนึงถึงโทษ อันตรายก็จะตกอยู่กับประชาชน สำหรับกรณีแพทย์ รพ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ที่มีการหยดน้ำมันกัญชาให้ผู้ป่วยนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบตามกระบวนการ ยืนยันทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย
สำหรับกรณีมีข้อเรียกร้องของบางกลุ่มให้คลายล็อคกัญชามากกว่าที่เป็นอยู่ ร่วมถึงกระแสรัฐบาลใหม่ กระทรวงสาธารณสุขจะได้รัฐมนตรีคนใหม่ที่มาจากพรรคการเมืองที่ขับเคลื่อนเรื่องกัญชาเสรี จะทำให้กรอบกติกาการใช้กัญชาเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ในประเทศไทยเปลี่ยนไปหรือไม่นั้น นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ตนเองไม่ได้เป็นห่วงเรื่องนี้ เพราะกฎหมายปัจจุบันที่ทำไว้คำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นหลักอยู่แล้ว หากจะมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องไปปรับแก้ในกฎหมาย
ที่มา : https://news.mthai.com/general-news/733585.html